วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Space เพราะเราห่าง.....Chapter 1

              ขณะที่ผมปรับที่นั่งให้เอนพอเหมาะ เสียงสูงต่ำของกัปตันที่บรรยายเส้นทางบิน สำเนียงภาษาอังกฤษที่สามารถเดาได้ว่า ผู้พูดคือชาวเมืองน้ำหอม สายการบินแห่งชาติฝรั่งเศส กำลังนำผมทะยานสู่ท้องฟ้า ผมนั่งมองคู่สามีภรรยาวัยเกษียณที่นั่งถัดไปจากผมไปไม่กี่ที่นั่ง สลับกับมองออกไปนอกกระจก และรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อต้องเตรียมตัวทรานซิสที่เวียดนาม กระเป๋าใบโตของผมถูกเข็นมาจอดทิ้งไว้ภายในท่าอากาศยาน

              ผมหย่อนก้นนั่งรอที่ร้านกาแฟ ขณะหยิบเอาแลปท๊อปเพื่อเปิดดูเส้นทางอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าที่ผมต้องเหยียบย่ำ ผมพลิกดูนาฬิกาข้อมือ ก่อนที่จะคว้าอุปกรณ์ทั้งหมดยัดใส่กระเป๋าแล้วเข็นรถไปยังเกท ผมกำลังเผชิญสิ่งที่ผมกลัว ผมกำลังสู้กับมัน พระมารดาเจ้าโปรดฟังคำวิงวอนของผมเถิด ในที่สุดผมกลับขึ้นสู่พาหนะที่จะลัดข้ามขอบฟ้าอีกครั้ง จุดหมายของการเดินทางครั้งนี้คือ “บางโค้ก” ตามสำเนียงเยอรมันที่ผมพูด แต่คุณคงรู้จักดีในชื่อที่เรียกว่า “บางกอก” ข้างนอกนั่นผมมองเห็นมหานครที่อยู่เบื้องล่าง...


               ขณะที่ผมกำลังวุ่นวายกับซองเอกสารที่ สนามบิน ผมพยายามที่จะหาเศษกระดาษใบเล็กที่ผมจดหมายเลขโทรศัพท์ไว้ ในเสื้อโค้ตผมกลับว่างเปล่า ให้ตายสิ ผมเริ่มรู้สึกถึงความซวยที่บังเกิด ก่อนที่จะคว้าไปเจอห่อเล็กๆห่อหนึ่งในกระเป๋า พี่อุสา ให้ช๊อคโคแลตแท่งนี้ก่อนขึ้นเครื่องที่ปารีส มันคงไม่เสียหายอะไรถ้าผมจะกินมันตอนนี้ ผมค่อยๆแกะแล้วเจอเศษกระดาษแผ่นหนึ่งเขียนว่า

“เดล นี้เป็นหมายเลขโทรศัพท์มือถือพี่จิบ 01-xxxxxxx ถ้ามีปัญหาอะไรให้โทรไปบอกพี่เค้าน่ะ ... ดูแลตัวเองล่ะ พี่สา”

        ความอบอุ่นจากช๊อคโคแลตบาร์ ถึงแม้รสชาติจะต่างจากที่ซื้อตามคอนวีเนี่ยนหรูๆ แต่ความอบอุ่นของรสชาติ และ ไมตรีของผู้ให้ทำให้มันวิเศษราวกับหิมะในวันคริสมาตร์

        ผมมองซ้ายขวาหาสัญลักษณ์ แน่ล่ะผมมาถึงกรุงเทพทั้งที ขอประกาศอาณาเขตหน่อย ห้องน้ำทางนู้นผมรีบเข็นคาร์ทไป ทุกอย่างกำลังจะเริ่ม ผมกดหมายเลขโทรศัพท์แรกที่แว๊บเข้ามาในความคิด

“Guten Tag!”
“อือ ฮัลโหล ใครค่ะ”
“เรามาถึงแล้ว ตอนนี้อยู่ เทอร์มินัล”
“เดินทางเหนื่อยไหม แป๊ปน่ะเราไปรับ”
“ไม่เป็นไร เทอนอนต่อเถอะ ไว้ค่อยคุยกัน เราจะเช็คอินก่อน”

            จะให้ผมโทรหาใครได้ล่ะครับ ผมเดินทางมาที่นี้ก็เพื่อลด Space ระหว่างกันและกัน ผมปรับเวลาที่นาฬิกาข้อมือให้เป็นเวลาท้องถิ่น ก่อนที่จะเรียกแท็กซี่ไปยังโรงแรม ผมหลับไปเต็มที่ตอนอยู่บนเครื่อง ตอนนี้ผมกำลังตื่น ไม่สิตื่นเต้นมากกว่า บุหรี่ตัวแรกบนแผ่นดินเกิด กับ เช้าวันแรก ผมดึงรุปภาพใบเล็กจากกระเป๋าสตางค์ออกมา อีกไม่กี่ชั่วโมงเราจะเดินจับมือกันเหมือนก่อน ลมหนาวที่พัดมาโดนใบหน้า พัดเอาภาพผู้หญิงผอมๆหัวฟู ที่หอบหนังสือกองโต ราวกับกำลังย้ายหนังสือจากสำนักหอสมุดไปไว้ที่บ้าน ยืนดูบอร์ดกิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์ทางทะเล ผู้หญิงเอเชียที่บ้าเรียน ยืนอ่านบอร์ดกิจกรรม ผมให้เทอ 2 แต้มจาก 10 เทอปราศจากร่องรอยแห่งความสวยโดยสิ้นเชิง พอเทอเดินก้าวออกไป ผมเดินมาแทนที่ บอร์ดนั่นเขียนว่ารับสมัครผู้สนใจเข้าค่ายชีวทางทะเล

             ผมหันกลับไปตามทางที่เทอเดินออกไปก่อนตะโกนว่า “ยัยเพ้อ ว่าแล้วนึกว่ายืนดูอะไร” ผมไม่คิดว่าจะมีใครเข้าใจความหมายที่ผมตะโกน เพราะตอนนี้ผมเป็นนักเรียนต่างชาติในเมลเบิร์น และ ยัยพะโล้นั่นก็คงเป็นคนเกาหลีชัวร์ ใช่สิต้องใช่แน่เพราะผมอยู่ ร.ร. นี้มา 5 ปีแล้ว นักเรียนไทยทุกคนผมรู้จัก ผมหันกลับมาดูที่บอร์ดอีกครั้ง ก่อนที่จะได้ยินเสียงตะโกนกลับมาว่า “เพ้อแล้วงัย นักส่วนไหนนายมิซาบ” ผมหันกลับไปหาต้นเสียง ยัยบ้านั่นยืนด่าผม ยัยเพ้อพูดภาษาไทย ผมคว้าเป้สะพานหลังวิ่งไปยังห้องชมรมไทย ผมเจอแล้ว เทอเป็นเด็กนักเรียนไทยย้ายมาจากซิดนีย์ และเป็นพวกไตรท์เอ คนจำพวกที่ไม่เหมาะแก่การคุยด้วย ผมบอกกับตัวเองว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนคนนี้เด็ดขาด แล้ววันรุ่งขึ้นผมต้องเปลี่ยนใจ ขณะที่ผมกำลังเดินอยู่บนถนน Swanston ผมเจอเทออีกแล้ว แต่คราวนี้เทอกำลังยืนดูวิหาร St. Paul's Cathedral โบสถ์ที่สร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมแบบกอธิก พร้อมกับผู้หญิงอีก 2 คน สาวละตินที่ยืนอยู่กับเทอ สุดยอดมาก ผมต้องทำความรู้จักกับยัยนั่น อย่างน้อยเทอน่าจะแน่ะนำผมให้ สาวฮอตนั่นรู้จัก ผมจะเริ่มตรงไหนดี

“เทอ... เมื่อวานเราขอโทษ” ผมรีบพูดทันทีที่เดินไปตรงหน้าสาวๆ
“คือเราไม่รู้ว่าเทอเปนคนไทย” และก้อ คำขอโทษ ที่แม่ผมบอกว่าใช้ได้เสมอ
“แล้วงัย” แต่เทอตอบกลับมาแบบนี้สิ แม่ครับแม่หลอกผมเหรอครับ
“คือเราชื่อเดลน่ะ แล้วเพื่อนเทอชื่ออะไร” ผมต้องเข้าถึงประเด็นให้เร็วที่สุด แต่รู้สึกจะผิดสเต็ป
“อ๋ออออ นายไปไกลๆได้ม่ะ ฉันเกลียดทรงผมนายน่ะ” จบกันยัยบ้า คนไทย ช่วยกันหน่อยสิ
“งั้นเราไปก่อนน่ะ นก แล้วเจอกันที่ชมรมไทย” ไปก้อได้ว่ะ

อ่านเรื่องราวความรักระหว่างผมกับเทอที่ยาวนานถึง 7 ปี และ กินพื้นที่ถึง 4 ทวีปได้ในไดครั้งหน้า
ที่มา : หุบเขาคนโสด
เจ้าของบทความ : หุบเขาคนโสด

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
Powered by Blogger